วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การระบายสีน้ำแบบใช้สีเพียงสีเดียว

     การระบายสีน้ำแบบใช้สีเพียงสีเดียว เป็นวิธีการฝึกฝนให้เกิดความเข้าใจและความชำนาญในการผสมปริมาณสีกับปริมาณน้ำในการสร้างระยะ แสงเงา น้ำหนัก ในภาพวาด ซึ่งจะเป็นผลดีในการระบายสีน้ำในอนาคต
วิธีฝึกขั้นแรกผมใช้ตารางเจ็ดช่อง ตามตัวอย่างคือ
1.เริ่มจากสีน้ำหนักเข้มที่สุดแล้วผสมด้วยน้ำที่เพิ่มมากขี้นไปเรื่อยๆ  ป้ายให้ได้น้ำหนักประมาณ7น้ำหนัก
2.เริ่มจากน้ำหนักอ่อนที่สุด แล้วเพิ่มปริมาณสีให้มากขึ้นเรื่อยๆจนได้น้ำหนักที่แตกต่างกัน7น้ำหนัก
***เทคนิค***
1.ระวังอย่าผสมน้ำมากเกินไป จะเกิดคราบน้ำ(คราบน้ำมีได้ครับถ้าอยู่ในจังหวะที่เหมาะสม ตอนนี้ให้ระวังฝึกฝนอย่าให่เกิดคราบน้ำก่อน คราบน้ำสร้างไดัไม่ยาก แต่ควบคุมไม่ให้เกิดยากกว่า)
2.หากผสมสีเข้มข้นมากเกินไป จะทำให้สีทึบตันเกิดความรู้สึกไม่สดใส วิธีสังเกตให้ดูที่ผิวกระดาษเมื่อเวลาสีแห้งแล้วหากพอมองเห็นผิวกระดาษเบิ้องล่าง แสดงว่าปริมาณน้ำกับสีพอดี หากมองไม่เห็นผิวกระดาษนั้นหมายความว่าปริมาณของสีเข้มข้นเกินไป ให้แก้ไขด้วยการระบายใหม่ผสมน้ำให่มากขึ้น ดังนั้นหากไม่อยากระบายใหม่อยู่บ่อยๆนักระบายสีน้ำจำต้องมีกระดาษไว้คอยทดสอบ
ผมขอส่งท้ายปีเก่าด้วยรูปภาพวาดระบายสีน้ำด้วยสีน้ำเงินเพียงสีเดียวเว้นขาวเพิ่มลดน้ำตามระยะหนักเบาของสี
ขอพระพรแห่งความสุขสว้สดิ์ดีจงมีแด่ทุกท่าน พบกับปีหน้าครับ

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การระบายสีน้ำด้วยสีวรรณะเย็น

     สีในกลุ่มสีเย็นได้แก่(ดูที่วงล้อสีฝั่งเย็น)
เหลือง
เหลือง+เขียว
เขียว
เขียว+น้ำเงิน
น้ำเงิน
น้ำเงิน+ม่วง
****ข้อสังเกต***สีเหลืองกับสีม่วงสามารถอยู่ได้ทั้งสองวรรณะ
นอกจากนี้ข้อกำหนดแบบเดิมของสีน้ำคือเราจะไม่ผสมสีขาวหรือสีดำลงไป
เพราะจะทำให้สีไม่สดใส
หากต้องการสีขาวในการระบายสีน้ำให้ผสมน้ำเพิ่มปริมาณมากขึ้นเพื่อให้สีอ่อนจางลงไป
หากต้องการสีดำ เราจะใช้วิธีการผสมสีให้เข้มขึ้น เช่นน้ำเงินกับม่วงแเดง เป็นต้น ฯลฯ
แต่ก็อีกนั้นแหละ หากประสงค์จะละเมิดกฎเกฎเกณฑ์บางอย่างก็สามารถกระทำได้ครับแล้วแต่ความนิยม
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นวิธีที่ผมฝึกฝน
ตัวอย่างภาพในวันนี้ผมใช้สีเขียว เหลือง น้ำเงิน แล้วใช้ปริมาณน้ำผสมให้น้ำหนักอ่อนแก่ไปตามระยะของสีพร้อมกับใช้สีตรงกันข้ามคือสีแดงผสมลงไปในสีเขียวน้ำเงินในระยะที่อยู่ไกลออกไปด้วยครับ

วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ระยะของสีน้ำ

     ระยะของสีหมายความว่าการแสดงระยะใกล้-ไกล ของว้ตถุหรือเรื่องราวในภาพวาด คน ต้นไม้ สัตว์ สิ่งของ ในการวาดรูปเราจะคำนึงถึงระยะของสีเพื่อให้เกิดมิติในภาพ จุดเด่น จุดรอง ความลึก บรรยากาศ  ฯลฯ
โดยทั่วไปวัตถุในธรรมชาติหากแสดงในภาพวาด  ส่วนที่อยู่ใกล้ศิลปินมักแสดงด้วยสีสันสดใสรายละเอียดชัดเจน
ส่วนที่อยู่ไกลสีก็จะคล้ำหม่น อ่อนจางลงไปตามลำดับจนกลมกลืนหายไปกับฉากหลัง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับผู้สร้างงานเป็นตัวกำหนด แตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของแต่ละคน
ระยะของสีน้ำสามารถทำได้ด้วยการ
1.ผสมสีตรงกันข้าม  ตัวอย่างเช่น ต้นไม้สีของใบมีสีเขียวเมื่ออยู่ไกลออกไปเราจะนำสีแดง(ซึ่งเป็นสีตรงกันข้ามกับสีเขียวมาผสม)ในสัดส่วนเล็กน้อยและจะเพิ่มปริมาณสัดส่วนมากขึ้นไปเรื่อยๆเมื่ออยู่ไกลออกไป ดังนั้นเราอาจจะเห็นต้นไม้หรือภูเขาที่อยู่ไกลออกไปเป็นสีเขียวคล้ำ(เพราะผสมด้วยสีแดงซึ่งเป็นสีตรงกันข้ามมากขึ้นไปเรื่อยๆ)
2.การผสมด้วยปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้นทำให้สีอ่อนจางลงไป จนกลมกลืนไปพร้อมกับฉากหลัง ก็สามารถแสดงเป็นระยะใกล้-ไกลได้ ตัวอย่างเช่น ต้นไม้ดอกไม้ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าอยู่ไกล้ก็จะมีน้ำหนักสีเข้มข้นส่วนที่ไม่เป็นจุดสำคัญก็จะอ่อนจางลงไปตามลำดับระยะไกล้ไกล

1.    สีตรงข้ามคือ?  กลับไปดูที่วงล้อสีที่เราผสมด้วยแม่สี3สี ลองเอาไม้บรรทัดวางดูสีที่อยู่ตรงกันข้ามกันในวงล้อสีนั่นเองที่เรียกว่าสีตรงกันข้าม เช่น สีเขียวตรงกันข้ามกับสีแดง เป็นต้น
2.   สีตรงข้ามใช้อย่างไร?ในการใช้สีตรงข้ามให้เริ่มใช้ผสมในสัดส่วนแต่น้อยตามระยะที่ต้องการแสดง เริ่มจากประมาณ10%(1/10)เพิ่มไปเรื่อยตามระยะที่ไกลออกไปอาจถึง50/50
3.  การผสมสีที่ดีโดยเฉพาะการระบายสีน้ำ พู่กันควรล้างให้สะอาดไม่เช่นนั้นสีที่ติดอยู่ในพู่กัน หรือจานสีจะผสมปนเปทำให้สีเพี้ยนไปจากที่ต้องการ หรือสีเน่าได้โดยง่าย ดังนั้น น้ำผสมสีควรหมั่นเปลี่ยนหากเห็นว่าสกปรก
***ข้อชี้แจง**** สิ่งที่ผมได้กล่าวมาแล้วในการแบ่งปันเรื่องการระบายสีน้ำ ทั้งหมดนั้นเป็นประสบการณ์การเฉพาะตัวเนื้อหาอาจไม่ตรงตามหลักวิชา ภาษาที่ใช้ผู้เขียนพยายามให้เข้าใจได้โดยง่ายสำหรับผู้สนใจฝึกฝน ดังนั้นหากมีข้อสงสัยหรือคิดเห็นอย่างไรไต่ถามแบ่งปันกันมาได้เลยครับ ในโลกของสีน้ำมีอะไรอีกมากที่ต้องศึกษากันต่อไป ด้วยความยินดีครับเพราะในโลกความจริงไม่มีเฉพาะสีเขียวสีแดง ยังไม่จบนะครับโปรดติดตามตอนต่อไป.


วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วรรณะของสี

     สิ่งพิเศษที่เราสามารถมองเห็นได้ในการระบายสีน้ำนอกจากค่าน้ำหนักอ่อนแก่ การเว้นจุดสว่างขาวที่สุดให้เป็นพื้นกระดาษขาว ตอนนี้จะกล่าวถึงวรรณะของสีครับ สีเกือบทุกประเภทที่มีอยู่บนโลกใบนี้ล้วนมีความเข้มของสีและให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป หากผู้สร้างสรรค์งานศิลปะมีความรู้ความเข้าใจในการใช้สี หรือเข้าใจในจิตวิยาของสีที่มีผลต่อจิตของมนุษย์หรือสัตว์เราก็จะสามารถนำความรู้ความเข้าใจเหล่านั้นไปทำประโยชน์หรือแก้ไขปัญหาต่างๆได้ในชีวิตประจำวันเช่น แมลงวันไม่ชอบสีน้ำเงินโรงงานผลิตเนื้อสัตว์มักจะทาด้วยอาคารดเวยสีน้ำเงิน
ยุงไม่ชอบสีส้ม คนเลี้ยงผึ้งสวมใส่ชุดขาว ชุดคุณหมอผ่าตัดทำไมเป็นสีเขียวเข้ม?เพราะาของเลือดหากเปื้อนชุดจะได้ไม่โดดเด่นทำลายสมาธิแพทย์ที่กำลังผ่าตัดรักษาผู้ป่วย(สีแดงผสมเขียวจะกลายเป็นสีกลางหรือเทาดำ)ลองจินตนาการดูหากชุดคุณหมอผ่าตัดเป็นสีขาวคงดูน่ากลัวพิลึกอะไรทำนองนั้น ดังนั้นหากเราสามารถนำควาเข้าใจเหล่านี้นำไป
สร้างสรรค์งานศิลปะที่มีคุณค่ามีพลังบันดาลใจต่อไป
ตัวอย่างที่ผมนำมาให้ชมเป็นการผสมแม่สีสากลทั้งสามทีละคู่สี
แม่สีสากลได้แก่(แม่สีขั้นที่1)
1.แดง
2.เหลือง
3.น้ำเงิน
วิธีผสมทีละคู่
แดง+เหลือง=ส้ม
แดง+น้ำเงิน=ม่วง
เหลือง+น้ำเงิน=เขียว
เราจะได้(แม่สีขั้นที่2)
ส้ม
ม่วง
เขียว
ทีนี้เราน้ำสีขั้นที่2ผสมกับขั้นที่1จะได้สีดังนี้
แดง+ส้ม=ส้มแดง
แดง+ม่วง=ม่วงแดง
เหลือง+เขียว=เหลืองเขียวหรือเรียกเขียวเหลืองก็ได้ครับ
เหลือง+ ส้ม=เหลืองส้มหรือส้มเหลือง
น้ำเงิน+ม่วง=น้ำเงินม่วงหรือม่วงน้ำเงิน
น้ำเงิน+เขียว=น้ำเงินเขียวหรือเขียวน้ำเงิน
เราจะได้สีขั้นที่3 คือ
ส้มแดง
ม่วงแดง
เหลืองเขียว
เหลืองส้ม
น้ำเงินม่วง
น้ำเงินเขียว
หมายเหตุในนำสีมาผสมกัน ต้องนำมาอย่างละครึ่ง พู่กันต้องสะอาดจริงๆสีจะได้ไม่เพี้ยนแม่สีขั้นที่1สามสีนำมาผสมกันตามข้อความข้างต้นเราจะได้สีเพิ่มขึ้นเป็น12สี
ถ้าหากนำแม่สีขั้นที่1ทั้งสามสีมาผสมกันเราจะได้สีที่13นั้นคือสีกลางหรือสีเทาดำ
*จุดสังเกตที่สำคัญ สีเหลืองและสีม่วงสามารถอยู่ร่วมได้อย่างกลมกลืนทั้งสองวรรณะ

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ค่าน้ำหนักอ่อนแก่ในสีน้ำ

    ค่าน้ำหนักอ่อนแก่หมายความว่า ปริมาณสีที่แสดงให้เห็นถึงความเข้ม-จาง ของสีด้วยการผสมน้ำผสมสีในปริมาณที่แตกต่างกันเพื่อจุดประสงค์ในการ
1.แสดงค่าของแสงและเงา  ในการระบายสีน้ำหากต้องการแสดงปริมาณแสงสว่างที่ตกกระทบวัตถุเราจะทำการเว้นขาว(ปล่อยเนื้อกระดาษว่างไว้เพื่อแสดงแสงสว่างสูงสุด)ตามความเป็นจริงแสงสีในตามธรรมชาติก่อนจะสว่างที่สุด จำต้องมีน้ำหนักลดหลั่นไล่ลงมาตั้งแต่เข้มไปยังสว่างในส่วนของเงา จุดตกกระทบของเงาที่ใกล้วัตถุที่สุดสีของเงาจะมีน้ำหนักเข้มแล้วก็ลดหลั่นอ่อนลงจางไปในที่สุด ตามตัวอย่าง
2.เพื่อแสดงระยะใกล้-ไกล  ความสวยงามสมจริงของภาพวาดเรื่องหนึ่งนั้นคือระยะของสี  หากเราต้องการแสดงระยะใกล้-ไกล ทำได้ด้วยการทำให้สีเข้ม-จาง วัตถุชิ้นไหนอยู่ใกล้สายตาสีก็จะมีน้ำหนักเข้มกว่าวัตถุที่อยู่ไกลออกไป
3.แสดงความรู้สึก น้ำหนักของสีก่อให้เกิดคุณค่าทางความรู้สึกเบาสบายหรือหนาหนัก หากเราใช้สีในปริมาณเข้มข้นเวบาชมภาพวาดนั้นจะให้ความรู้สึกหนักแน่น กลับกันยามเรามองภาพที่สีอ่อนจางเกินไปอาจรู้สึกได้ถึงความเบาโหวงไร้น้ำหนัก ที่ดีในการระบายสีน้ำควรมีทั้งหนักทั้งเบา นั้นคือค่าน้ำหนักอ่อนแก่นั้นเอง
   การสร้างน้ำหนักอ่อนแก่เราจะทำอย่างไร?
1.สร้างโดยการเพิ่มปริมาณน้ำเข้าไปในเนื้อสีในขณะผสม ยิ่งเพิ่มสีจะยิ่งจางลง ข้อควรรู้ก็คือหากมากเกินไปอาจจะเกิดคราบน้ำที่ไม่พึงประสงค์ได้ ควบคุมยาก ในเวลาระบาย
2.เพิ่มปริมาณสี (เพื่อความเข้าใจง่ายผมเลยแยกเป็นสองหัวข้อ)หมายความว่าเพิ่มปริมาณสีให้เข้มข้นขึ้นในขณะผสมหรือกำลังระบาย ดังตัวอย่างครับ
หมายเหตุ เนื่องจากจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความเข้าใจได้โดยง่ายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการแบ่งปันเรื่องการระบายสีน้ำ ผมจึงใช้ภาษาเรียบง่ายหรืออาจมีบ้างบางครั้งที่ไม่เป็นไปตามตำราแต่แบ่งปันจากประสบการณ์การตรง ซึ่งผู้ที่สนใจศึกษาหรือปฎิบัติอยู่อาจจะประยุกต์ปรับปรุงแก้ไขตามความถนัดครับ สำหรับท่านที่เป็นอยู่แล้วอยากจะนำมาแบ่งปันแลกเปลี่ยนก็ขอเชิญด้วยความยินดีครับ


วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ระบายสีน้ำแบบผสมกลมกลืน

     หลังจากที่เราได้เรียนรู้วิธีระบายเรียบบ้างแล้ว ทีนี้มาระบายแบบผสมกลมกลืนหมายความว่าให้ใช้เทคนิคแบบระบายเรียบแต่ผสมสีอื่นเข้าไปในขณะระบาย  ดังตัวอย่างเทคนิคนี้ใช้การระบายต่อจากแนวน้ำตกน้ำชุ่มพอควรและกระดานรองที่ติดกระดาษวาดรูปต้องเอียงทำมุม(ยิ่งเอียงมากน้ำไหลเร็วผลที่ที่ได้แตกต่างลองสังเกตดู)
คุณสมบัติที่ดีของสีน้ำที่ดีคือต้องมีความสดใสโปร่งบางของสี มีซึมเข้าหากัน ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวของสีน้ำ ซึ่งสีอื่นเลียนแบบได้ยาก
เวลาเชื่อมสี สีเดิมควรยังไม่แห้งสนิท รอยต่อของสีใหม่จึงจะผสมกลมกลืน หกสังเกตดูในระหว่างรอยต่อดังตัวอย่างระหว่างสีเหลืองและสีน้ำเงิน เราจะเห็นสีเขียวหรือจากสีเหลืองมาเป็นสีชมพูระหว่างรอยเชื่อมต่อจะเกิดสีใหม่คือสีส้มอ่อนๆเป็นต้น นี่เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของสีน้ำซึ่งลอกเลียนแบบได้ยาก
   หากเราเชื่อมต่อสีอื่นเร็วไปในขณะที่สีเดิมยังไม่แห้ง ผลที่ได้อาจจะเละไม่นุ่มนวลไม่เป็นไปตามใจที่ต้องการ
หากช้าไปรอยเชื่อมต่อก็จะแข็งกระด้างไม่ราบเรียบ ดังนั้นก่อนที่จะผสมกลมกลืนต้องคำนวณให้ได้จังหวะที่พอดีๆกระดาษหมาดๆสีผสมน้ำไม่เหลวไปไม่ข้นจนเกินไป สรุปต้องหมั่นทดลองฝึกซ้อมเป็นประจำให้เกิดความคุ้นเคยในการใช้น้ำใช้สีครับ
   เทคนิคเหล่านี้หากปฎิบัติได้จะส่งผลดีในอนาคตสำหรับการระบายสีน้ำได้อย่างแน่นอนครับ

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ระบายสีน้ำแบบเรียบ

   ตกหลุมรักสีน้ำมานานอยากแบ่งปันให้กับผู้ที่สนใจในเรื่องระบายสีน้ำ อาจมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ อุปกรณ์ง่ายมากมีกระดาษ100ปอนด์ สีน้ำ กระดานรองเขียน พู่กัน ภาชนะใส่น้ำสะอาดสำหรับระบายสี ผ้าหรือกระดาษสำหรับเช็ดหรือซับสี กระดาษกาวย่น เมื่ออุปกรณ์พร้อมใจพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆผ่อนคลายเราจะไปด้วยกันครับ
   1.เริ่มที่ติดกระดาษกาวย่นตรงมุมกระดาษ100ปอนด์ทั้งสี่ด้าน(เฉพาะมุมนะครับสิ้นเปลือง)บีบสีอะไรก็ได้แค่ปลายนิ้วก้อยลงในจานสี(ควรเป็นจานสีขาวเพราะจะช่วยให้มองเห็นสีที่ผสมเกิดขึ้นใหม่ได้ชัดเจนไม่เพี้ยน)
   2.ใช้พู่กันจุ่มน้ำสะอาดเยาะลงในสีที่บีบไว้แล้วคนให้เข้ากัน พู่กันเบอร์ประมาณ6-10ก็ใช้ได้ครับสำหรับขั้นตอนนี้
   3.ตั้งกระดานให้เอียงเล็กน้อยเข้าหาตัว ป้ายสีที่ผสมกับน้ำดีแล้วลงบนกระดาษจากทางด้านบนสุดจากซ้ายไปขวา ประมาณ2-3นิ้วฟุต (ผสมให้เหลวจะทำให้มองเห็นแนวน้ำไหลได้ง่ายครับ)เวลาระบายเราจะเห็นสีน้ำตกลงมาด้านล่างเนื่องจากการเอียงของกระดานรอง ประมาณ30องศาป้ายระบายไปเรื่อยๆตามแนวน้ำที่ตกลงมา
    4.รอสังเกตุผล  เอาไว้มาต่อคราวหน้านะครับ

ระบายสีน้ำแบบเรียบ

หากใจพร้อมอุปกรณ์พร้อมก็ไปกันเลยครับเริ่มจากติดกระดาษกาวหรือตัวหนีบยึดกับกระดานรองเขียน(ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้หลุดแต่ไม่ต้องแน่นหนามาก เป็นวิธีที่ผมใช้อยู่ครับ)